ผมได้ยื่นเรื่องทำ U.S. Passport ไว้ปลายเดือน March, 23 2015 เพิ่งได้รับพาสปอร์ตเมื่อวานนี้ April, 18 2015 รวมระยะเวลา 3 week กับ 5 วัน ซึ่งในใบตอบรับยื่นเรื่องกำหนดไว้ 04/27/15 เป็นอย่างช้า หากใครจำเป็นต้องเดินทางต้องการเร่งด่วนก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกจะได้รวดเร็วกว่านี้ ภายใน 2 วีค
อ่านบทความเก่าที่ผมเขียนไว้ เตรียมตัวสอบอเมริกันซิติเซ่น และประสบการณ์สอบ http://www.mygreencardus.com/uscitizen-interview-nc-2015
และเรื่องเล่าในวันสาบานตน http://www.mygreencardus.com/us-citizenship-oath-ceremony
มาขอเล่าขั้นตอนละกันครับ ไม่มีไรยุ่งยากมากมายเลย ง่ายครับ 
หลังจากได้ใบประกาศซิติเซ่นแล้ว ก็ลุยกันได้เลย จากครั้งก่อนที่เล่าไว้หลังจากสาบานตน ก็อยากจะไปทำพาสปอร์ตให้เสร็จภายในวันนั้นเลย แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องนัดคิวล่วงหน้าในการยื่นขอพาสปอร์ต ท่านใดจะยื่นก็ตรวจสอบโทรถามก่อนว่าจะต้องนัดไหม หรือเดินไปทำได้ทันที บางที่ก็ไม่มีนัดคิวเข้าไปทำได้เลย
เข้าเว็บไซต์ http://passports.state.gov อยากจะกรอกด้วยมือ พิมพ์แบบฟอร์มออกมา หรือ กรอกออนไลน์แล้วพิมพ์ออกมาไปยื่นก็ตามสะดวกเลยครับ
หน้าหลักของเว็บไซต์ u.s. passport ก็ดูง่ายๆ โหลดแบบฟอร์ม หรือ กรอกออนไลน์แล้วพิมพ์ออกมา ตรงหัวข้อ Forms กรอบสีฟ้าในรูป ส่วนระยะเวลารอพาสปอร์ตก็ในกรอบสีแดงครับ
ค่าธรรมเนียม http://travel.state.gov/content/passports/english/passports/information/fees.html
ค่าธรรมเนียม แบบพาสปอร์ตอย่างเดียว $110 + ค่าจัดส่ง $25 รวม $135 จะเห็นว่ามี Passport Card แบบนี้จะเป็นบัตรสำหรับเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง แคนาดา แม็กซิโก หากใครต้องการทำก็ทำเพิ่มไปได้เลย $140
รายละเอียด U.S.Passport Card http://travel.state.gov/content/passports/english/passports/information/card.html
ตัวอย่าง u.s. passport card ก็ตามรูปครับ มีอายุ 10 ปี เดินทางได้ประเทศที่ระบุไว้เท่านั้นที่ติดพรมแดนอเมริกา ไม่สามารถใช้เดินทางต่างประเทศทางเครื่องบินได้
โหลดแบบฟอร์ม DS-11 มากรอกด้วยมือ http://www.state.gov/documents/organization/212239.pdf
หรือ กรอกออนไลน์แล้วพิมพ์ออกมา https://pptform.state.gov
วีดีโอแนะนำการกรอกฟอร์มและการยืนสมัครพาสปอร์ต
[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=SDeJqRyL3JY&rel=0]
การกรอกฟอร์ม
ไม่มีไรยุ่งยากครับ พื้นฐานเบสิคข้อมูลส่วนตัวทั่วไป วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทร ทำงานอะไร ชื่อพ่อแม่ บุคคลอ้างอิงหากมีเหตุฉุกเฉินติดต่อใครได้บ้าง
ลองกดเข้าไปกรอกออนไลน์เล่นๆ ดูก่อนก็ได้ครับ หรือโหลดแบบฟอร์มมาดู
เอกสารประกอบในการยื่นขอ U.S. Passport
1. แบบฟอร์ม DS-11 กรอกให้ถูกต้องเรียบร้อย เว้นช่องเซ็นชื่อไว้ เซ็นต์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ และเซ็นต์แบบลายเซ็นต์เท่านั้น เขียนแบบปกติตัวพิมพ์ไม่ได้
2. หลักฐานยืนยันว่าเป็น อเมริกันซิติเซ่น อย่างคนไทยเราที่ไม่ได้เกิดในอเมริกา ก็ใบประกาศซิติเซ่นที่สอบได้มา เจ้าหน้าที่จะขอตัวจริงไปและจะถ่ายสำเนาให้เราเก็บไว้
3. ID Card ยืนยันตัว ใช้ Driver License หรือ ID Card ปกติก็ได้
4. สำเนา copy id 1 แผ่น
5. รูปถ่าย 2 x 2 นิ้ว 1 รูป เหมือนที่ใช้ยื่นทำวีซ่า ยื่นสอบซิติเซ่น ขนาดและรูปแบบเดียวกัน เห็นหน้าและใบหูชัดเจน ผมถ่ายเองพริ้นเอง ก็ใช้ได้ครับ แต่งรูปให้สวยๆ
6. ค่าธรรมเนียม จ่ายโดย Money order หรือ Check
ค้นหาสถานที่ยื่นสมัครพาสปอร์ตใกล้บ้าน http://travel.state.gov/content/passports/english/passports/information/where-to-apply.html
แถวบ้านผมมีที่เดียว Post office ที่ ดาวทาวน์ ขับรถไปประมาณ 20 กว่านาที แต่ครั้งนี้ผมรู้แล้วว่า walk in ไปได้เลย แต่ห้ามเกิน 10 โมงเช้าครั้งก่อนเจอป้าโหดไล่ให้ทำนัดก่อนจะมายื่น ไม่อยากทำนัด เลยไปแต่เช้าเลยกะว่าคิวแรกๆ แต่เช้าเลย 8.30 น. Post office เปิดทำการ ใบสมัครก็ได้จากซองในวันรับใบประกาศซิติเซ่น ไม่ได้พิมพ์ใหม่ เปลืองหมึก 55 ขนาดไปแต่เช้า มีคนรอนั่งรอก่อนเปิดอีก 10 กว่าคิว แถมให้ดึงกะดาษคิวอีก ดึงมาเลขก็มั่วมาก ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ออกมาเรียก 9.00 น. คิวเลขก็มั่วสุดๆ สรุป จำหน้าเอาใครมาก่อนมาหลัง นั่งจองเก้าอี้กันไปเลย ระหว่างรอคิวคนแรกๆไปทำ ก็มีคนที่โทรจองนัดคิวไว้มาก็แทรกไปได้เลย
ไอ้เราก็กะว่าคงไม่นาน 10 คิวเอง เจ้าหน้าที่มีสองโต๊ะคงจะไว ที่ไหนได้ พนักงานทีนี่ผิวสี เวลาเจอพวกเดียวกัน โอ้วแม่เจ้า โม้ใส่กันแหลกราน ไม่สนใจลูกค้านั่งรอเลย เซ็งสุดๆ เราก็กะว่าเออ ไม่น่าจะช้าไร ช้าเพราะโม้กันนี่เอง กว่าจะได้เรียกไปทำตามคิวปาไป สิบโมงเหอๆ นี่หร่ะเมกาใครว่าจะดีไปซะหมด สู้บ้านเราก้ไม่ได้ ทำพาสปอร์ต คิวแทบไม่ต้องนั่งรอ ทำแป๊บๆ 10 นาทีถ่ายรูปแช๊ะ ไม่ต้องเอารูปไปเอง ที่เมกา ถ่ายรูปก็เสียเงินเพิ่มอีก ถ่ายที่บ้านไปเองนะแจ๊ะ 
ได้คิวถึงแล้ว ดีที่ไม่เจอยายป้าโหดคร้งก่อน พูดจาไม่ดี เจ๊แกอยู่โต๊ะในสุด ได้เจอป้าโต๊ะหน้า พูดจาดี เอาใจใสดีแต่ป้าแกไม่สบายจามตลอดเวลาซะงั้น 55 กลัวจะติดหวัดป้าเอาเลยทีเดียว ก็ยื่นเอกสารทั้งหมดให้ป้า เอกสารก็ตามที่บอกไปข้างบนครับ
ป้าเจ้าหน้าที่ก็ไล่เช็คเอกสาร ว่าครบถ้วนไหม กรอกถูกต้องไหม เรียบร้อยก็ให้เซ็นต์ชื่อในใบสมัคร ตัวผมไม่เคยมีลายเซ็นต์ก็เขียนตัวปกติ ป้าบอกไม่ได้ๆนะ ต้องเซ็นแบบนี้ ชี้ให้ดูข้างรูปในใบประกาศซิติเซ่น
เออ นี่ตรูก็ไม่ได้เซ็นต์นะ จากวันที่ได้ใบประกาศซิติเซ่นมาก็ ตะหงิดใจสงสัยว่าใครเซ็นแทน มานึกๆย้อนหลังวันนัดพิมพ์ลายมือนั่นเอง เจ้าหน้าที่คงลืมให้เซ็นต์ เลยเซ็นแทนซะงั้น เลยติดมาในใบประกาศแบบที่เห็นเซ็งไป ผมคงไม่กล้าเลียนแบบลายเซ็นต์นี้หรอกเห็นแล้วเจํบใจลายเซ็นต์อย่างกะเด็กหัดเขียนหนังสือ แหม่กล้าเซ็นต์แทนให้อีกต่างหาก แต่ยังดี รูปถ่ายวันนั้น ที่พิมพ์ลายมือ ยังดูโอเค ขอแนะนำไว้เลยนะครับ รูปถ่ายอยากให้สวยๆ จัดเต็มหล่อสวยในวันนัดพิมพ์ลายมือเลย ดึงรูปนี้กะลายเซ็นต์มาแปะในใบประกาศซิติเซ่นของเรานี่หระ
แต่ผมเองก็เฉยๆ ไว้ ป้าก็งง ๆ ว่ายูเซ็นต์ไม่ใช่หรอ เอิ่บพูดไปป้าก็คงไม่เข้าใจว่ามันมีไรผิดพลาดกะผม ป้ายังใจดีอีกนะ เซ็นต์ให้ดูเป็นตัวอย่างผมละฮามาก เกิดมาไม่เคยมีลายเซ็นต์ป้าก็กลัวว่าผมจะเซ็นต์ไม่เป็น แหม่ป้า ไม่ยากหรอก ยึกยือ ๆ ติดๆกัน ผมทำได้ 555 เซ็นต์เรียบร้อย ก็เอาเช็คสองใบ เขียนสั่งจ่าย โดยระบุสั่งจ่าย “Depart of State” 1 ใบ $110 และ อีกใบ ป้าเจ้าหน้าที่ ปั๊มชือสั่งจ่ายให้ในเช็คเป็น Postmaster อีก $25 ค่าจัดส่งพาสปอร์ต อ่อ ป้าบอกว่าต้องเอาใบซิติเซ่นตัวจริงไปประกอบทำพาสปอร์ตด้วยนะ ยูมีก๊อปปี้ไว้ไหม ไม่มีจะก๊อปปี้ให้ ก็ได้ก๊อปปี้มา 1 ใบไว้ เสร็จแล้ว ให้ผมยกมือขึ้น แล้วป้าก็พูดคำสาบานว่าข้อมูลทั้งหมดที่เรากรอกและให้เอกสารไว้เป็นความจริงทุกอย่าง ก็ตอบเยสไป จบสิ้นพิธี
ป้าก็จัดการเอารูปแม๊กติดกับใบสมัคร แม๊กเช็คติดใบสมัคร แล้วยื่นเช็คใบสั่งจ่าย Postmaster ให้ไปจ่ายเงินที่ เคาน์เตอร์ Post office แล้วก็กรอกใบตอบรับให้ 1 ใบ ระบุวันที่จะได้รับพาสปอร์ตไม่เกิน 04/27/15 เขียนชื่อสกุล เบอร์มือถือ วันเดือนปีเกิดไว้ เก็บใบนี้ไว้เป็นหลักฐานการยื่นทำพาสปอร์ต ใช้เวลาไม่นานหรอก แต่ที่ผมรอช้าเพราะป้า ๆมั่วแต่โม้กะลูกค้า ใช้เวลาทำจริงๆ ไม่ถึง 10 นาทีเลยนะป้าๆ คงไม่ต้องมาเจออีกแล้วนะ ชักช้ากันขนาดนี้ ต่ออายุก็ส่งทางเมลล์เอาง่ายสบายใจดี ไม่เสียอารมณ์รอคอย 
ผมผิดเองหร่ะ ที่ไม่ทำนัดไว้ กะว่าคงจะไม่ได้นานไรมากนัก คิดผิดจริงๆเลยทีเดียวเชียว
เช็คสถานะเคสยื่นเรื่องออนไลน์ได้ที่ https://passportstatus.state.gov/opss/OPSS_Status_ip.asp
กรอก นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลข ssn
ก็จะแจ้งสถานะว่าดำเนินการอยู่ จะได้รับพาสปอร์ตประมาณวันที่ 04/25/15 และก็ให้ลงทะเบียนอีเมลล์แจ้งได้
หลังจากนั้นก็รอคอย มาถึง 3 วีค จดหมายปิดผนึกก็ได้มาซะที แต่มาเช็คสถานะออนไลน์ ก็เหมือนเดิม ไม่เห็นมีไรอัพเดตเลย จนได้พาสปอร์ตมาหร่ะเนี้ย แสดงว่าระบบเช็คสถานะช้ากว่าไม่อัพเดตเอาซะเลย
จาก u.s.government แกะออกมาก็เจอพาสปอร์ตสวยงาม มีใบโบรชัวร์แจ้งว่า จะแยกส่งมาสองซอง ซองที่ได้รับคือพาสปอร์ตเมกัน อีกซองจะตามมาคือใบประกาศซิติเซ่นของเรา แหม่จะแยกส่งกันสองครั้งทำไมให้เปลืองค่าส่งนะ แบบนี้หร่ะนะ อเมริกา แยกส่วนกันทำงาน ฝ่ายพิจาณณาเอกสารก็อีกฝ่าาย ฝ่ายออกพาสปอร์ตก็อีกฝ่ายส่งใครส่งมัน เอาจริงๆ มันนานตรงรอคิวทำนี่หระ ในพาสปอร์ตระบุวันออก 15 April 15 จดหมายส่งมา 3 วัน ถึง 18 April 15
With Your U.S. Passport, Tha World Is Yours! ของเค้าดีจริงๆ จาก http://www.passportindex.org/byRank.php จัดอันดับ พาสปอร์ตทั่วโลกว่าใครเจ๋งสุด ของอเมริกาเดินทางเข้าได้ 147 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่าว่างั้น ได้รอบโลก แต่ติดปัญหาที่ เงิน พ็อคเก็ตมันนี่อย่างเดียวนี่หร่ะ 555 อยากรู้รายละเอียดว่าประเทศไหนในโลกบ้างที่ไปเที่ยวได้เลย ได้กี่วัน อะไรยังไงตามไปที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Visa_requirements_for_United_States_citizens
หน้าปกข้างนอก สีกรมท่าเข้มๆ มาเปิดดูข้างในกันดีกว่าว่าจะสวยงามสู้ของไทยเราได้ไหม ของไทยเราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกจะบอกให้
ปกหน้าด้านใน
หน้าข้อมูลพาสปอร์ต อุแหม่ ต้องยอมรับว่าสวยจริง ลวดลายงามตา แต่ของไทยก็มีเรือสุวรรณหงส์นะจะบอกให้ ของเมกันมี นกอินทรีย์โลโก้พี่กันเค้าหร่ะ แต่มันดีตรงที่ 10 ปีหมดอายุ ใช้กันยาวๆ ไปเลย บ้านเราแค่ 5 ปี แป๊บๆ หมดอายุ
มาดูด้านในปกหลังสุด จะหมายถึงว่าอเมริกันมีองค์การน่าซ่า หรือจะสื่อว่าสามารถเดินทางได้รอบโลกใช่มะเนี้ย
ในที่สุดก็จบสิ้นภาระกิจอันยาวนานตั้งแต่รอเรื่องได้กรีนการ์ด 8 ปี, เข้ามาอยู่ อเมริกา 5 ปี, ยื่นเรื่องสอบซิติเซ่น + รับใบประกาศติเซ่น 4 เดือน , รอพาสปอร์ต 3 อาทิตย์
รวมระยะเวลาทั้งหมด 13 ปี 5 เดือนได้ แหม่มันนานจิง ๆ ผลดีผลพลอยได้ที่ถือพาสเมกันก็คงจะเข้าประเทศอื่นๆได้ง่ายๆ เป็นหลัก แต่ มีข้อแม้ว่าต้องมีเงินซื้อตั๋วบินกะเงินเที่ยว 555 ส่วนผมไม่ขอไร ขอบินกลับประเทศไทยได้แบบสบายใจก็พอ ไม่ต้องมากังวลว่าอยู่ไม่เกิน 6 เดือน อย่างที่เคยถือกรีนการ์ดอีกต่อไป สบายใจไทยแลนด์ เจอกันใหม่บทความหน้าครับ ว่าจะหาเรื่องไรมาเล่าให้ฟังกันอีก 
