b2
March 10, 2017
อยากให้คนในครอบครัวมาเยี่ยมด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เริ่มต้นอย่างไร
1. อ่านคำแนะนำ การขอวีซ่าท่องเที่ยว  พิมพ์คำว่าวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา แบบใหม่ ใน Google
2. จัดหาเอกสารสนับสนุน
3. อ่านคำแนะนำ จากสถานทูตอเมริกาโดยตรง http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-typeb1b2.asp
4. เตรียมรูปถ่าย 2 นิ้วสำหรับวีซ่าอเมริกา   ( ถ้าไม่บอกที่ร้านว่า 2 นิ้ววีซ่าอเมริกา อาจได้ 2 นิ้วขนาดรูปถ่ายไทย กว้างxยาวต่างกัน ) ขอไฟล์มาด้วยเพื่อมาดาวน์โหลดในแบบฟอร์มออนไลน์
คำแนะนำเรื่องภาพถ่าย  http://www.mygreencardus.com/photo-us-visa-thai/
5. เริ่มทำตามขั้นตอนสมัครวีซ่าอเมริกา กรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า DS-160 ทำรายการ ออนไลน์
ในขั้นตอนของการขอวีซ่าชั่วคราว จะมีขั้นตอน
  • ลงทะเบียนสมัครออนไลน์ โดยการกรอก DS-160
  • จ่ายค่าธรรมเนียม ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • เลือกวันนัดสัมภาษณ์

     

6. เตรียมทั้งเอกสาร และ พกดวงไปสัมภาษณ์  (หลายๆคนบอกว่า ดวงดีกว่าจะมาแรงกว่า มีโอกาสได้วีซ่ามากกว่า แต่ก็ควรเตรียมเอกสารสนับสนุนไปด้วย  ไม่ควรไปสัมภาษณ์ โดยเดินไปตัวเปล่า พร้อมกับดวงอย่างเดียว   )
แต่งตัวให้บุคลิคดูดี น่าเชื่อถือ แสดงเจตนาไปแล้วจะกลับมาตามกำหนด
เอกสาร  ( คำแนะนำจาก  http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-typeb1b2.asp  )
  • แบบฟอร์มการยื่นคำร้องวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160) ไปที่เว็บเพจ DS-160 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DS-160
  • หนังสือเดินทางที่สามารถใช้สำหรับเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหนังสือเดินทางดังกล่าวนั้นจะต้องมีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ท่านตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหกเดือน (นอกจากได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงรายประเทศ)
  • สำหรับผู้ที่ใช้หนังสือเดินทางร่วมกับผู้เยาว์ โปรดทราบว่าแต่ละคนที่ต้องการวีซ่าจะต้องยื่นใบคำร้องขอวีซ่าแยกกัน
  • รูปถ่ายขนาด 2×2″ (5 ซม.x5 ซม.) ที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่ง (1) ใบ รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดของรูปถ่ายสามารถอ่านได้จากเว็บเพจนี้ ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราวในสกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับจำนวน 160 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้

 

นอกจากเอกสารดังที่กล่าวมาแล้ว ท่านต้องแสดงใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าท่านได้จองเวลานัดสัมภาษณ์ผ่านระบบนี้ และท่านยังสามารถนำเอกสารประกอบอื่นๆ ที่ท่านเชื่อว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่กงสุลได้ติดตัวไปด้วย
 

 ลงทะเบียนสมัครวีซ่า :  กรอก DS-160  

อ่านการลงทะเบียนในนี้ http://www.mygreencardus.com/apply-ds-160-b1-b2-thai/ 
  • เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย สั่งพิมพ์หน้ายืนยันการลงทะเบียนออกมา

   จ่ายเงินค่าธรรมเนียม 

ดำเนินการแยกจากขั้นตอนลงทะเบียน DS-160

  • ลงทะเบียนในนี้ ( เข้าลิงค์นี้ทำรวมกันกับขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ ต้องทำรายการจ่ายเงินก่อน แล้วถึงจะไปขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ได้ )
  • ค่าธรรมเนียม 160 ดอลล่าห์
  • ในใบแจ้งจ่ายเงินค่าธรรมเนียมที่ได้ จะระบุมาว่า จ่ายเป็นเงินไทยจำนวนเท่าไหร่ ตามอัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้น
  • นำใบแจ้งจ่ายเงิน ไปจ่ายเงินที่ธนาคารกรุงศรี จะมีเอกสาร 2อย่างที่ถือไปธนาคาร
  1. ใบแจ้งการจ่ายเงินที่ระบุ ว่า ต้องจ่ายเงินจำนวนเท่าไหร่ มีหมายเลขอ้างอิงในการลงทะเบียนชำระเงิน และ ระบุวันหมดอายุของเอกสารที่ได้ออกมา
  2. แบบฟอร์มการชำระเงิน  คลิกเพื่อสั่งพิมพ์ –> http://www.ustraveldocs.com/th_th/BAYDepositSlip.pdf

    k1pay4

  • ไปจ่ายเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แล้วกลับมาlog in ทำขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์ ในวันรุ่งขึ้นช่วงบ่าย
การทำการนัดสัมภาษณ์
จะต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการทำนัดสัมภาษณ์ (ทำร่วมกันกับขั้นตอการจ่ายเงิน ดำเนินการต่อเลย )
  • หมายเลขหนังสือเดินทาง
  • หมายเลขใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • หมายเลขบาร์โค้ดสิบ (10) หลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160
เข้ามาที่ลิงค์เดียวกับที่ทำรายการจ่ายเงิน  http://www.ustraveldocs.com/th/
ดำเนินการต่อ ตามคำสั่งหน้าจอที่ปรากฎหลังจาก log in ด้วย account เดิม
( ทำรายการ ช่วงบ่าย วันทำการวันรุ่งขึ้นหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อย )
ไปสัมภาษณ์ตามนัด
ไปสัมภาษณ์ก่อนนัดประมาณ 15 นาที
ถือโทรศัพท์ไปแค่ 1 เครื่อง มากกว่านั้นต้องหาที่ฝากเอง (เสียตังค์)
เอกสารประกอบ
เอกสารประกอบในการยื่นคำร้องขอวีซ่า http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-typeb1b2.asp
เอกสารพิ่มเติมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่กงสุลจะนำมาพิจารณาประกอบการสัมภาษณ์
โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณีจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ขณะที่ทำการตัดสิน
โดยอาจดูเจตนาของท่าน สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาวของท่าน ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคลภายใต้กฎหมาย
ข้อควรระวัง : อย่าแสดงเอกสารปลอม การหลอกลวงหรือการกรอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจทำให้ท่านเสียสิทธิ์ในการร้องขอวีซ่าอย่างถาวร
หากท่านมีความกังวลเรื่องความลับของข้อมูล ผู้สมัครควรนำเอกสารต่างๆ ใส่ซองปิดผนึกมายังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาด้วยตนเอง
สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อผู้ใดและจะเคารพข้อมูลที่เป็นความลับของท่าน
ท่านควรนำเอกสารต่อไปนี้มาในวันสัมภาษณ์ ควรนำเอกสารตัวจริงมาแทนสำเนา อย่าส่งโทรสาร อีเมล หรือส่งเอกสารประกอบของท่านไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาทางไปรษณีย์
  • หลักฐานแสดงรายได้
  • การชำระภาษี
  • เอกสารครอบครองทรัพย์สินหรือธุรกิจ หรือสินทรัพย์
  • รายละเอียดการเดินทางและ/หรือคำอธิบายอื่นๆ เกี่ยวกับการเดินทางของท่าน
  • หนังสือจากผู้ว่าจ้างแสดงรายละเอียดตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาการว่าจ้าง
  • และการอนุมัติวันหยุดหรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
  • ประวัติอาชญากรรมหรือการดำเนินคดีในศาลเกี่ยวกับการถูกจับกุมหรือถูกตัดสินโทษในทุกที่ แม้ว่าท่านจะได้ชดใช้ความผิดนั้นแล้วหรือได้รับอภัยโทษในภายหลังก็ตาม
นอกจากนั้น ท่านควรพิจารณานำเอกสารต่อไปนี้มาด้วย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทางของท่าน
  • นักเรียน นำผลการเรียนล่าสุด ใบรับรองผลการศึกษา และใบรับปริญญา/ใบประกาศนียบัตรมาด้วย
  • นำหลักฐานการสนับสนุนทางการเงินเช่น
  • ใบแจ้งยอดบัญชีรายเดือนจากธนาคาร
  • ใบรับเงินฝากประจำ หรือหลักฐานอื่นๆ
  • ผู้บรรลุนิติภาวะที่ทำงานแล้ว นำหนังสือว่าจ้างจากผู้ว่าจ้างและสลิปเงินเดือนสามเดือนที่ผ่านมา
  • นักธุรกิจและผู้อำนวยการบริษัท นำหลักฐานแสดงการดำรงตำแหน่งในบริษัทและเงินตอบแทน
  • เดินทางไปเยี่ยมญาติ นำสำเนาหลักฐานสถานภาพของญาติที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ (เช่นกรีนการ์ด ใบรับรองสัญชาติ วีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ เป็นต้น)
  • ผู้เคยเยี่ยมเยียนสหรัฐอเมริกา หากท่านเคยเดินทางไปสหรัฐอเมริกามาก่อน ให้นำเอกสารยืนยันการเดินทางเข้าประเทศและสถานะวีซ่ามาประกอบ

 

b2

 

อ่านคำแนะนำการลงทะเบียน DS-160 http://www.mygreencardus.com/apply-ds-160-b1-b2-thai/

 * บล็อคส่วนตัว  ไม่ใช่ จนท.สถานทูตอเมริกา  ตรวจสอบข้อมูลจาก ลิงค์ที่แนบ
Edit   : January  04, 2018