Make an offer คือ ขั้นตอนหลังจากเราเลือกบ้านที่สนใจจะซื้อได้แล้ว ทำการเสนอขอซื้อกับเจ้าของบ้านโดยเราระบุราคาไปว่าเราต้องการซื้อจะจ่ายใน ราคาเท่าไหร่ เจ้าของบ้านจะตกลงหรือไม่ เมื่อได้บ้านที่สนใจ ตัดสินใจจะซื้อหลังแต่อาจขอต่อก่อน ถ้าได้ราคาที่พอใจถึงจะซื้อก็แจ้งบอกให้ตัวแทนเราทราบค่ะ  ว่าเราเจอบ้านที่สนใจ ต้องการ offerแล้ว ตัวแทนจะดำเนินการเตรียมเอกสารในขั้นตอนนี้ให้ ก่อนยื่นข้อเสนอราคา ก็ต้องหาข้อมูลก่อนว่าเราควรเสนอที่ราคาเท่าไหร่ดี จะไม่พลาดโอกาสที่จะได้จ่ายในราคาต่ำ หรือแพงเกินและไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย การofferมีความเป็นไปได้ 3อย่าง 1.เสนอต่ำกว่าราคาที่เจ้าของบ้านแจ้งขาย 2.เสนอเท่ากับราคาบ้านที่แจ้งขาย 3.เสนอสูงกว่าราคาบ้านที่แจ้งขาย   จะเสนอราคาที่ซื้อบ้านเท่าไหร่ดี พิจารณาจากข้อมูลคร่าวๆตามนี้ 1. พิจารณาเปรียบเทียบวิเคราะห์ราคาตลาดบ้านในบริเวณใกล้เคียงที่สุด เทียบกับบ้านที่พึ่งขายได้ในเวลาล่าสุด และระยะเวลาใกล้ๆกัน บ้านหลังอื่นในบริเวณนั้นขายได้ในราคาเท่าไหร่  แต่ต้องเปรียบเทียบคุณสมบัติทั้งหมดด้วย เลือกเปรียบเทียบกับ บ้านหลังที่คุณสมบัติเหมือนกัน เริ่มที่พื้นที่ขนาดเท่ากัน ดูราคาต่อตารางฟุตเปรียบเทียบกัน ดูconditionต่างๆในบ้าน สภาพบ้าน จำนวนห้องนอนห้องน้ำ อุปกรณ์พื้น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่ได้  ถ้า หลังนี้สองแสนห้า อีกหลังที่พึ่งขายไปสองแสนสาม หลังนั้นมีอะไรด้อยกว่าหรือไม่ ถ้าดูแล้วคุณสมบัติเท่ากัน แสดงว่าหลังสองแสนห้าประกาศขายเกินราคาตลาดเราก็พิจารณาต่อรองราคา เลือก เปรียบเทียบในบ้านที่ประกาศขายในลักษณะเดียวกัน แบบธรรมดาทั่วไป  ถ้าเอาบ้านที่ประกาศขายธรรมดาไปเปรียบเทียบกับบ้านที่ถูกธนาคารยึดจะเปรียบ เทียบไม่ค่อยได้ เพราะลักษณะการตั้งราคาต่างกัน 2. บ้านนั้น อยู่ในตลาดบ้านมานานแค่ไหน คนสนใจแค่ไหน ถ้า บ้านนั้นอยู่ในทำเลดีคนสนใจมาก หรือhot ในตลาด คนต้องการเยอะ เราไม่อยากพลาด ก็คงต้องเสนอในราคาที่สูงกว่าที่เจ้าของแจ้งขายเพื่อจะได้มีโอกาสได้มาก่อน คนอื่น ถ้าบ้านค้างในตลาดนานแสดงว่าไม่มีคนสนใจอาจเพราะตั้งราคาสูงเกิน หรือบ้านอยู่ในทำเลไม่ดี หรือบ้านมีปัญหา เราก็อาจต่อรองได้เยอะ 3.จำนวนคนที่ต้องการoffer หรือตัวเลขที่คนอื่นoffer อาจ เป็นข้อมูลที่รู้ได้ยาก แต่ถ้ารู้ได้จะมีประโยชน์ในการตัดสินใจว่าเราควรofferเท่าไหร่ดี บางทีต้องอาศัยเทคนิคการพูดคุยกับตัวแทนและความสนิทสนมส่วนตัว ...
อันดับ 5 California Zephyr เส้นทาง Chicago – Emeryville, California ระยะเวลา 51 ชั่วโมง 20 นาที   อันดับ 4 Cass Scenic Railroad เส้นทาง Cass – Bald Knob, West Virginia ระยะเวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง (ไปกลับ)   อันดับ 3 Amtrak Cascades เส้นทาง Eugene, Oregon, – Vancouver, British Columbia ระยะเวลา 11 ชั่วโมงครึ่ง   อันดับ 2 Ethan Allen Express เส้นทาง New York City – Rutland, Vermont ระยะเวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง   อันดับ 1 Durango and Silverton Narrow Gauge Railroad เส้นทาง Durango – Silverton, Colorado ระยะเวลา...
หาข้อมูลเรื่องบ้าน ได้ข้อมูลว่า สิ่งที่จะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยการกู้เงินซื้อบ้านคือ เครดิตสกอร์ เลยมาหาข้อมูลเรื่องเครดิตสกอร์   ได้ศัพท์อีกหนึ่งคำ คือ คำว่า ไฟโก้สกอร์ FICO Score  เคยได้ยินมาจากดูวีดีโอคุณ Suze Orman ตั้งแต่มาอยู่ใหม่ๆ แต่ตอนนั้นไม่สนใจ แต่คุ้นๆ ว่า FICO Score มีผลต่อเรื่อง financial มาก  ทำไมคุณ Suze ไม่ใช้คำว่า Credit Score  เลยหาข้อมูลว่า FICO Score แตกต่างจาก Cradit Score อย่างไร FICO Score แตกต่างจาก Credit Score อย่างไร สองคำนี้ คือ การให้คะแนนเครดิตเรา โดยดูจากประวัติการใช้จ่ายของเรา จากการรายงานการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต การไปทำสัญญาซื้อขายต่างๆ ประวัติการเป็นหนี้ การจ่ายหนี้ เอามาคิดคะแนน เป็น credit score credit sore ที่เราตรวจสอบทั่วๆไป ออนไลน์ อาจมาจาก บริษัทใด บริษัทหนึ่ง จัดตั้งขึ้นมา ให้คะแนนเครดิตเรา...
สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าธรรมเนียม ประหยัดเวลา  ทุกเดือนผมใช้บริการอยู่ ก็ถือว่าถูกสุดแล้วนะครับ เรทค่าเงินก็จะได้ตามแบงค์กรุงเทพ ณ วันที่โอนเข้าไทยเรียบร้อย ** มี Bank Account ของธนาคารอะไรก็ได้ในอเมริกา U.S. มี Online Banking หรือมีบัญชี Paypal ** ** มี บัญชีธนาคารกรุงเทพ เป็นชื่อบัญชีตัวเอง หรือ บัญชีบุคคลอื่น ที่ไทย ** หลักการของระบบคือ เราโอนเงินออกจากธนาคารอเมริกา เข้าธนาคารกรุงเทพ สาขา นิวยอร์ก หลังจากนั้น ธนาคารกรุงเทพ สาขา นิวยอร์ก จะโอนเข้าไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ในประเทศไทย ** ไม่ต้อง ไปเปิดบัญชีที่สาขานิวยอร์ก** จาก ประสบการณ์ผม ใช้ Bank of America ระบบค่อนข้างดี โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นได้ แค่ยืนยันรหัส SMS ในระบบ ก็โอนให้บุคคลอื่นของธนาคารกรุงเทพในไทยได้ ไม่ต้องมีการยืนยันเจ้าของบัญชีปลายทาง ส่วนธนาคารอื่นในอเมริกาผมไม่มี จึงไม่ยืนยันว่าสามารถทำได้ทุกธนาคารหรือไม่ แต่ถ้ามีเมนูโอนให้บุคคลอื่นภายในอเมริกา ก็โอนให้บุคคลอื่นได้ครับ   ประสบการณ์การใช้งาน Bank Of America และ ถอนเงินจาก...
ควรจ่ายเงินดาวน์บ้านเท่าไหร่ดี • หลาย สถาบันการเงินจะอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน โดยให้เราดาวน์อย่างน้อย 10-20% บางสถาบันการเงินให้ดาวน์ได้ 5% หรือบาง lender อาจอนุมัติโดยไม่ต้องวางเงินดาวน์เลย • ในแต่ละสถาบันการเงิน มีข้อกำหนดรายละเอียดปลีกย่อย ในการวางเงินดาวน์ วางเงินดาวน์น้อยได้ แต่มีข้อแม้อะไรบ้าง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นหรือไม่ เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้ต้องสอบถามรายละเอียดจากแต่ละสถาบันการเงินโดยตรง พิจารณาข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจ • ถ้าเราวางเงินดาวน์ ต่ำกว่า 20 % ของราคาบ้าน หลายๆ สถาบันการเงิน จะให้เราทำประกัน ซึ่งเป็นการทำประกันความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ หมายความว่า เรามีเงินดาวน์น้อย สามารถซื้อบ้านได้เหมือนกัน แต่ สิ้นเดือนเราจะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าคนที่ ดาวน์มากกว่า 20 % เทียบกับคนที่ซื้อบ้านราคาเท่ากัน คือเราจะ ต้องจ่ายค่า ประกันเงินกู้ด้วย จ่ายทุกสิ้นเดือน รวมในรายจ่ายที่จะต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านแต่ละเดือน ประกันนี้เรียกว่าการทำประกัน PMI : Private Mortgage Insurance http://www.zillow.com/mortgage-rates/buying-a-home/mortgage-insurance-and-pmi/ • เงินประกัน PMI นี้ผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ครอบครัวเรา แต่ผู้รับผลประโยชน์คือสถาบันการเงินผู้ปล่อยเงินกู้ ถ้าหากเราต้องการทำประกันบ้านที่เราเป็นผู้รับผลประโยชน์ของการประกันนั้นต้องทำประกันคนละอย่าง หมายถึงรายจ่ายจะเพิ่มมากขึ้น ทำไมเวลาจะซื้อบ้านถึงมีคำแนะนำว่า ควรดาวน์อย่างน้อย 20% • สาเหตุหลักอย่างแรกคือ...
  พักผ่อนวันหยุดวันนี้ พักจากเขียนเนื้อหาเรื่องวีซ่ามาคุยกันเรื่องเตรียมตัวซื้อบ้านในอเมริกานะคะ พูดถึงเรื่องมีบ้าน  มีบ้านแล้วดียังไง ทำไมถึงน่าจะมีบ้านเป็นของตัวเอง จากที่หาข้อมูลมาจากหลายๆแหล่งคำแนะนำ ให้ความเห็นกันว่า ถ้ามีบ้านของตัวเอง เราอยากทำอะไรก็ได้ ติดรูปข้างฝานัง ติดม่าน ตกแต่ง ปลูกต้นไม้ ทาสีฝาผนังใหม่ ไม่ต้องกังวลว่ามันไม่ใช่ทรัพย์สินของเรา อยากเลี้ยงหมา ก็ไม่ต้องกังวลจะทำพรมบ้านเช่าเลอะ ทางบ้านเช่าบางที่อาจไม่อนุญาตให้เลี้ยงเลย บางคนบอกว่าซื้อบ้านผ่อนธนาคาร จ่ายรายเดือนถุกกว่าค่าเช่าแต่ละเดือนอีกนะ ได้บ้านมาด้วย หรืออาจจ่ายมากกว่าหน่อย แต่สุดท้ายก็มีบ้านเป็นทรัพท์สินแทนเงินที่เสียไป  ถ้าเช่าก็จ่ายไปเรื่อยๆ ไม่ได้อะไร ดอกเบี้ยผ่อนบ้านเอามาลดหย่อนภาษีประจำปีได้ด้วย  ในอนาคตอาจขายได้กำไรดีกว่าตอนซื้อด้วย ถือเป็นการลงทุนทางหนึ่ง แต่ ก็ใช่ว่าทุกควรควรมีบ้านเป็นของตัวเองกันเถอะ ถ้ามันง่ายและดีไปทุกอย่างก็คงซื้อบ้านกันทุกคน ธุรกิจบ้านเช่าคงไม่มีใครใช้บริการ ทุกคนคงมีบ้านเป็นของตัวเองกันหมด ถ้าคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเองต้องดูด้วยว่า เราจะรับภาระที่ตามมาได้หรือไม่  ถ้ามีบ้านจะมีภาระอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง มีบ้านเป็นของตัวเอง ดอกเบี้ยที่ผ่อนส่งธนาคารเอาไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ก็จริง แต่ก็มีภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้น คือต้องมีรายจ่าย ภาษีบ้านประจำปี ค่าประกันบ้าน ค่าบำรุงรักษาทั่วไป อะไรเสียหายก็โทรไปบอกเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของอพาตเมนท์เหมือนตอนเช่าอยู่ไม่ได้แล้ว มีอะไรต้องซ่อม ต้องหาช่างเอง จ่ายเอง ค่า HOA หรือสาธารณูประโภคส่วนกลางประจำเดือน ต้องจ่ายไปตลอดจนกว่าจะขายบ้านหรือหมดอายุขัยเราตราบใดที่ยังอยู่บ้านนั้น และ ค่าธรรมเนียมนี้อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตในย่านเมืองใหญ่ๆ ทำเลดีๆ สำหรับครอบครองคอนโด ค่า HOA ประมาณร้อยกว่า สองร้อย ต้องจ่ายทุกเดือน นอกเหนือจากค่าผ่อนบ้าน ในขณะที่เช่าอพาตเม้นท์ อาจไม่ต้องเสียส่วนนี้...
  เหตุการณ์งานบัตรสำคัญหายทั้งกระเป๋าตังค์ ขนาดนี้คงจะไม่ได้เกิดกับใครได้ง่าย ๆหรือเปล่าคับ สำหรับผมมันเกิดขึั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนไปเป็นคนกรุงในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ช่วงนั้น น้อง มาเวิคแอนทราเวลที่ SIx flag NJ สวนสนุกในนิวเจอร์ซี่ น้า 2 คนพ่อและแม่ของน้องผม กับป้าอีก 1 คน มาเที่ยวกันก็มาเยี่ยมลูกสาวสุดเลิฟนี่หร่ะ ขอวีซ่าเที่ยวผ่านกันทั้งหมดเลยได้โอกาสขับรถพาเที่ยวกัน มีคนออกค่าใช้จ่ายเที่ยวชีวิตช่วงนั้น แฮปปี้ลั้นลามากมาย อิอิ ตอนนั้นทำงานผัดในร้านอาหารไทย จังหวะออกจากร้านเก่าพอดี ขอเที่ยวก่อน น้าๆ กลับไทยไปค่อยหางานร้านใหม่ทำ แพลนเที่ยว NJ , NY , DC เรื่องต่อๆไป จะมาเล่าแนะนำนะครับว่าเที่ยวอะไรที่ไหนยังไงบ้าง วันงานงอกวันนั้น น้องทำงานในสวนสนุกก็ได้สิทธิพาคนเข้าเที่ยวฟรีๆ มีหรือจะพลาด ฮ่าๆ รถไฟเหาะตีลังกา วนไปวนมา ปกติใส่กางเกงยีนส์กระเป๋าตังค์ไว้ข้างหน้า หรือก้น ก็ไม่มีทางกระเป๋าตังค์หล่นได้แน่ๆ วันนั้นใส่ขาสั้นเพราะอากาศร้อนมาก กระเป๋าข้างไอ้ผมก็ลืมไปเลย มัวแต่ตื่นเต้นว่าจะได้ขึันรถไฟเหาะหวาดเสียวๆ  จังหวะที่หล่นก็เจือกตีลังกาแหกปากร้องกรี๊ดยิ่งกว่าตุ๊ดกลางป่าต้นไม้รกพอดีเชียว น้องนั่งแถวหลังบอกเห็นแล้วว่ากระเป๋าพี่เติ้ลวิ่งผ่านหน้าไปคว้าไม่ทัน ส่วนผมมัวแต่หากปากร้องกรี๊ด ไม่รู้เรื่องเลยซักนิดว่ามันหล่นออกไปตอนไหน  พอลงมาก็มึน จะอ้วก 555 ใจหวิว ๆยังไม่หาย แต่เอ๊ะ ทำไมกระเป๋ากุงเกงเบาๆ...
อ่านข้อมูล วีซ่าท่องเที่ยว เริ่มต้น อย่างไร http://www.mygreencardus.com/us-vis-b1-b2-thai/ กรอกแบบฟอร์ม DS-160 ได้ที่   https://ceac.state.gov/genniv/ เลือกภาษาที่มุมขวาบน เลือกประเทศที่จะสัมภาษณ์  Thailand, Bangkok เลือก start an application ตอบคำถามทุกข้อเป็นภาษาอังกฤษโดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ยกเว้นในกรณีที่คำแนะนำให้ใส่ชื่อเต็มของด้วยตัวอักษรในภาษา ท้องถิ่น ต้องอัพโหลดรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน หากพักการกรอกใบสมัครเกิน 20 นาที ระบบจะแจ้งเตือนว่าหมดเวลา ต้องเริ่มกรอกใหม่ตั้งแต่ต้น เว้นแต่ว่าได้จดหมายเลขใบสมัครของท่านไว้ หรือบันทึกใบสมัครเป็นไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์ก่อนหน้านี้แล้ว ควรจดบันทึกหมายเลขใบสมัครซึ่งหาได้จากมุมขวาบนของหน้าจอ หากจำเป็นต้องปิดเบราว์เซอร์ก่อนยื่นใบสมัคร จะต้องใช้หมายเลขนี้เพื่อกรอกใบสมัครต่อภายหลัง  จดหรือจำคำตอบที่ตอบไปในการตอบคำถาม security question เพื่อใช้ในการกลับมากรอกใบสมัครต่อภายหลัง หรือเข้ามาดูหน้าใบยืนยันการกรอก  เริ่มต้น กรอกข้อมูลทั่วไป   คำแนะนำ ข้อที่สงสัยกันบ่อย  https://youtu.be/BXwvG_AFtU0        กรอกข้อมูล ชื่อนามสกุลตรงกับพาสปอร์ต ข้อมูลเกี่ยวกับพาสปอร์ต Passport Book Number เลือก Does Not Apply ไปเลย ข้อมูลที่อยู่ บ้านเลขที่ ที่มีเครื่องหมาย / ใส่ - แทน แผนการเดินทาง เลือกวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าสหรัฐฯ วีซ่าท่องเที่ยว  สามารถเลือก B1/B2 กรอกวันที่ที่ตั้งใจเดินทางถึงและ ระยะเวลาที่ตั้งใจพำนักในสหรัฐฯ ถ้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับแผนเดินทางที่แน่นอน เขียนประมาณการณ์ วันที่ใกล้เคียงที่สุด   ข้อมูลการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ตอบ “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามว่าเคยเดินทางเข้าสหรัฐฯ มาก่อนหรือไม่ ถ้าตอบว่า “Yes” ให้รายละเอียดที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับการเดินทางที่ผ่านมาของท่าน...
  ผมได้ยื่นเรื่องทำ U.S. Passport ไว้ปลายเดือน March, 23 2015  เพิ่งได้รับพาสปอร์ตเมื่อวานนี้ April, 18 2015  รวมระยะเวลา 3  week กับ 5 วัน ซึ่งในใบตอบรับยื่นเรื่องกำหนดไว้ 04/27/15 เป็นอย่างช้า  หากใครจำเป็นต้องเดินทางต้องการเร่งด่วนก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีกจะได้รวดเร็วกว่านี้ ภายใน 2 วีค อ่านบทความเก่าที่ผมเขียนไว้ เตรียมตัวสอบอเมริกันซิติเซ่น  และประสบการณ์สอบ http://www.mygreencardus.com/uscitizen-interview-nc-2015 และเรื่องเล่าในวันสาบานตน http://www.mygreencardus.com/us-citizenship-oath-ceremony มาขอเล่าขั้นตอนละกันครับ ไม่มีไรยุ่งยากมากมายเลย ง่ายครับ หลังจากได้ใบประกาศซิติเซ่นแล้ว ก็ลุยกันได้เลย จากครั้งก่อนที่เล่าไว้หลังจากสาบานตน ก็อยากจะไปทำพาสปอร์ตให้เสร็จภายในวันนั้นเลย แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องนัดคิวล่วงหน้าในการยื่นขอพาสปอร์ต ท่านใดจะยื่นก็ตรวจสอบโทรถามก่อนว่าจะต้องนัดไหม หรือเดินไปทำได้ทันที บางที่ก็ไม่มีนัดคิวเข้าไปทำได้เลย เข้าเว็บไซต์  http://passports.state.gov อยากจะกรอกด้วยมือ พิมพ์แบบฟอร์มออกมา หรือ กรอกออนไลน์แล้วพิมพ์ออกมาไปยื่นก็ตามสะดวกเลยครับ หน้าหลักของเว็บไซต์ u.s. passport ก็ดูง่ายๆ โหลดแบบฟอร์ม หรือ กรอกออนไลน์แล้วพิมพ์ออกมา ตรงหัวข้อ Forms กรอบสีฟ้าในรูป ส่วนระยะเวลารอพาสปอร์ตก็ในกรอบสีแดงครับ   ค่าธรรมเนียม  http://travel.state.gov/content/passports/english/passports/information/fees.html ค่าธรรมเนียม แบบพาสปอร์ตอย่างเดียว...
ตอนที่ได้ยินคำว่า HOA ครั้งแรก สงสัยว่ามันคืออะไร ก็เลยมาเปิดกูเกิ้ลหาคำอธิบาย A Homeowner's Association, or HOA เป็นกฎระเบียบที่กำหนดร่วมกันในแต่ละชุมชน   ค่าใช้จ่าย HOA ถ้าแปลเป็นไทย น่าจะคล้ายๆ ค่าบริการสาธารณะ ค่าบำรุงสาธารณูปโภคส่วนกลางในแต่ละชุมชน  เงินส่วนนี้แต่ชุมชนเอาไปบริหารในการดูแลบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนที่คนในชุมชนใช้ร่วมกัน เช่น ทางเดิน สนามหญ้าส่วนกลาง สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ สนามกีฬา เป็น รายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน  อาจจ่ายรายเดือน หรือรายปี แล้วแต่ชุมชนที่เราอยู่จะกำหนดว่าเท่าไหร่    บางชุมชน จ่ายน้อยมากต่อเดือนและอาจกำหนดให้จ่ายรายปี บางที่จ่ายเยอะมาก  จะเจอในที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียม อพาตเม้นท์ บ้านในชุมชนเหมือนบ้านจัดสรรที่มีส่วนกลางต้องดูแล เช่น สนาม ทางเดิน สระว่ายน้ำ  บำบัดน้ำเสีย ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวๆ ไกลๆ ในชนบท ที่เจ้าของบ้านแต่ละหลังดูแลบ้านตัวเองและพื้นที่รอบๆ ไม่มีส่วนกลาง อาจไม่มีค่าธรรมเนียมนี้ เวลา จะซื้อบ้าน หลายๆคน จะสนใจค่าธรรมเนียมนี้ด้วย ว่า ต้องจ่ายเท่าไหร่ ต่อเดือน เพราะ มันคือรายจ่ายที่เราจะจ่ายเพิ่มขึ้นจากจำนวนเงินที่ส่งธนาคารทุกเดือน ไปตลอดเวลาการครอบครองบ้าน เวลาจะซื้อบ้าน ควรพิจารณารายจ่ายส่วนนี้ด้วย มากไปเราก็อาจสู้ไม่ไหว เพราะจะต้องมีรายจ่ายจุกจิกอย่างอื่นอีก HOA จะมีแจ้งไว้ใน รายละเอียดโฆษณาบ้านแต่ละหลัง ลองสังเกตดูนะคะ ในweb โฆษณาขายบ้าน หลายๆที่จะบอกข้อมูลนี้ไว้ด้วย ตัวอย่าง...

WEATHER

New York
broken clouds
68.2 ° F
81.6 °
57 °
68 %
2.8mph
75 %
Thu
80 °
Fri
70 °
Sat
59 °
Sun
53 °
Mon
52 °